ผมเห็นทะเลและนั่งเรือครั้งแรกในชีวิตก็ตอนอายุ 11 ขวบ ผมนั่งเรือขนส่งลำใหญ่จากไทยไปซัวเถา เรือโคลงเคลงไปตามคลื่นทะเล คนจำนวนมากเมาเรือ แต่ผมไม่รู้สึกเมาเรือเลย หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เรือก็เดินทางถึงบ้านเกิดของคุณพ่อที่ซัวเถา บ้านเกิดของคุณพ่ออยู่ที่หมู่บ้านเผิงจง อำเภอเถ่งไฮ่ ปัจจุบันอยู่ในการปกครองของเมืองซัวเถา คุณพ่อมีบ้านอยู่ที่นั่น ซัวเถาเป็นเมืองท่าเรือการค้า แบบของอาคารบ้านเรือนเป็นตึกแถวที่ติดถนนมีระเบียงแบบ “อาเขต” ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอาคารแบบตะวันตก คือ ถ้าเป็นอาคารสองชั้นจะทำเป็นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย ชั้นล่างของอาคารจะมีหลังคายื่นออกมาติดต่อเนื่องกันเป็นระยะๆ เพื่อให้มีทางเท้าที่ขนานไปกับถนน ทั้งยังเป็นทางเดินที่มีที่ช่วยบังแดด บังฝนให้คนเดินเท้าอีกด้วย อาคารแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของซัวเถา ผมอาศัยบนชั้น 3 ของอาคาร ตอนนี้อาคารนั้นก็ยังอยู่ แต่ไม่มีคนอาศัยแล้ว สมัยนั้นคุณพ่อของผมมักไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่จะไปอยู่ที่สวน ตอนที่ผมอยู่ซัวเถา ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารเลย เพราะตอนที่อยู่กรุงเทพฯ ผมใช้ภาษาแต้จิ๋วสื่อสารกับคุณแม่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของผมในเรื่องการสื่อสารอยู่ที่ตัวอักษรจีน ตอนผมอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมได้เรียนภาษาจีนที่โรงเรียนแรกได้เพียง 1 ปี หลังจากนั้นพอย้ายมาเรียนที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัยก็ไม่ได้เรียนภาษาจีน อีก เพราะที่โรงเรียนสอนแต่ภาษาไทย ผมเข้าไปเรียนชั้น ป.4 ที่ซัวเถา ต้องเริ่มเรียนภาษาจีนใหม่ ในสมัยนั้น นักเรียนที่อยู่ในชั้นเดียวกันมีอายุต่างกันมาก สาเหตุเพราะเมื่อเกิดการก่อตั้งชาติจีนใหม่ คนที่ไม่เคยได้เรียนหนังสือแต่มีอายุมากแล้ว ก็มีโอกาสได้เรียนหนังสืออีกครั้ง ประกอบกับมีลูกหลานชาวจีนอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้กลับมาเรียนที่ซัวเถา เด็กๆ เลยถูกมาเรียนรวมกัน ตอนนั้นผมก็ถือว่าอายุมากในชั้นเรียนเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ใช่เด็กโตสุด เพื่อนร่วมชั้นบางคนอายุมากกว่า 15 ปี ผมไม่อยากให้เพื่อนๆ ล้อ จึงตั้งใจเรียนภาษาจีนโดยซื้อพจนานุกรมภาษาแต้จิ๋วมาจากร้านขายหนังสือ และขอยืมหนังสือเรียนของเพื่อน ป.1 และ...
Read More